คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

บริษัท เค ดับบลิว โกลบอล เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด

 

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) นี้จัดทำขึ้น เพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้เข้าใช้บริการ หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “กิจกรรมการประมวลผล”) ของบริษัท เค ดับบลิว โกลบอล เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “สำนักงาน”) ได้ทราบและเข้าใจรูปแบบการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานดำเนินการ ในฐานะ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่าน เพื่อการดำเนินการภายใต้กิจกรรมการประมวลผล ประกาศนี้เป็นการกำหนดหลักการและหลักปฏิบัติกลาง (main notice) โดยสำนักงานมีการดำเนินกิจกรรม และการให้บริการที่หลากหลาย ทั้งกิจกรรมสำหรับบริการภายนอก และกิจกรรมสำหรับการดำเนินกิจการภายใน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของสำนักงานโดยแต่ละกิจกรรมและบริการเหล่านั้นจำเป็นต้องมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของท่าน โดยรายละเอียดกิจกรรมและบริการต่างๆ จะอธิบายและให้รายละเอียดกับท่านเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของท่านที่แต่ละกิจกรรม หรือแต่ละบริการมีการดำเนินการ

ทั้งนี้ สำนักงานดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

1. สำหรับผู้สมัครงาน
หัวข้อ รายละเอียด
  • 1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • 1.1. เพื่อกระบวนการสรรหาบุคลากร
    • 1.1.1. เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครงาน ประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่สำนักงาน ต้องการสรรหา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เช่น การรับสมัคร การทดสอบ การสัมภาษณ์ การประเมิน การคัดเลือก ตลอดจนการเสนอการจ้างงานให้กับท่าน
  • 1.2. เพื่อตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติก่อนการจ้างงาน
    • 1.2.1. เพื่อตรวจสอบว่าที่ท่านเคยมีประวัติการทำงานกับสำนักงาน หรือเคยสมัครงานกับสำนักงาน มาก่อนหรือไม่
    • 1.2.2. เพื่อประเมินความสามารถหรือคุณสมบัติของท่าน ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต เช่น คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ประวัติสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม รวมถึงการสอบถามข้อมูลจากบุคคลอ้างอิงที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้กับสำนักงาน
  • 1.3. เพื่อการจัดการภายในองค์กรเกี่ยวกับกระบวนการจ้างงาน
    • 1.3.1. เพื่อการจัดการภายในสำนักงานเกี่ยวกับกระบวนการจ้างงาน เช่น การส่งข้อมูลผู้สมัคร หรือรายงานการสัมภาษณ์ให้กับผู้มีอำนาจตัดสินใจคัดเลือก หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระบวนการภายในเพื่อจัดทำสัญญาจ้าง การฝึกอบรม รวมถึงกระบวนการอื่นๆ ที่ต้องจัดเตรียมสำหรับพนักงานใหม่
  • 1.4. เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของสำนักงาน
    • 1.4.1. เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของสำนักงาน การแลกบัตรก่อนเข้าพื้นที่สำนักงาน/สาขา รวมถึงการบันทึกภาพภายในพื้นที่ของสำนักงาน ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV Privacy Notice)
  • 2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
  • 2.1. ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในใบสมัคร
    • 2.1.1. ข้อมูลตามเอกสารที่ท่านส่งมอบให้แก่สำนักงาน เช่น Resume Curriculum Vitae (CV) จดหมายสมัครงานใบสมัครงาน ความเห็นประกอบการสรรหาพนักงาน
    • 2.1.2. ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด น้ำหนัก ส่วนสูง เลขที่บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง หมู่เลือด สัญชาติ ศาสนา สถานะการสมรส
    • 2.1.3. ข้อมูลในการติดต่อกับท่าน เช่น ที่อยู่ ที่อยู่ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail address) หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลโซเชียลมีเดีย
    • 2.1.4. เงื่อนไขในการปฏิบัติงาน เช่น สามารถปฏิบัติงานต่างจังหวัดได้หรือไม่ พื้นที่ที่ต้องการปฏิบัติงาน
    • 2.1.5. ข้อมูลของคู่สมรส บุตร บิดา มารดา เช่น ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน วันเกิด สัญชาติ หมู่เลือด การศึกษา ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์
    • 2.1.6. ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัว หรือผู้อยู่ในความดูแลของท่าน
    • 2.1.7. รูปถ่ายและภาพเคลื่อนไหว
    • 2.1.8. ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถ และการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่นๆ ของท่าน เช่น ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษา สถาบัน/มหาวิทยาลัย ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ผลการศึกษา ผลการทดสอบ สิทธิในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ความสามารถทางด้านภาษา และความสามารถอื่นๆ ข้อมูลจากการอ้างอิงที่ท่านได้ให้แก่สำนักงาน
    • 2.1.9. ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงาน และข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต เช่น ตำแหน่งงาน รายละเอียดของนายจ้าง เงินเดือนและค่าตอบแทน สวัสดิการที่ได้รับ
    • 2.1.10. ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่สามารถปฏิบัติงานได้
    • 2.1.11. ข้อมูลเกี่ยวกับภาระทางทหาร
    • 2.1.12. ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ
    • 2.1.13. รายละเอียดของบุคคลที่อ้างถึง และรายละเอียดของผู้ที่สำนักงานสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
  • 2.2. ข้อมูลจากการทำแบบทดสอบข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของท่าน เช่น นิสัย พฤติกรรม ทัศนะคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งอาจได้มาจากการสังเกตและวิเคราะห์ของสำนักงาน ในระหว่างที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมกับสำนักงาน
  • 2.3. ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานหน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น กระทรวงแรงงาน
  • 2.4. ข้อมูลที่รวบรวมจากท่าน เช่น ข้อมูลที่ท่านระบุหรือให้ไว้แก่สำนักงาน ข้อมูลที่ท่านแจ้งแก่สำนักงานในระหว่างการสัมภาษณ์งาน ข้อมูลของท่านจากการทำแบบทดสอบต่างๆ ข้อมูลท่านให้ไว้ในการเข้าร่วมกิจกรรมกับสำนักงาน
  • 2.5. ข้อมูลที่ท่านเลือกจะแบ่งปันและเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน เครื่องมือ แบบสอบถาม และบริการต่าง ๆ ของสำนักงาน
  • 2.6. เอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่าน เช่น สำเนาเอกสารที่หน่วยงานของรัฐออกให้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถ หนังสือเดินทาง และสำเนาเอกสารที่หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนออกให้ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน ประกาศนียบัตร ปริญญาบัตร ใบแสดงผลการเรียน
  • 2.7. ข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน หรือนักศึกษาฝึกงาน การปฏิบัติตามสัญญาการฝึกงาน การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ การวิเคราะห์และการบริหารงานของสำนักงานและการปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ
  • 2.8. กรณีที่ท่านได้รับคัดเลือกให้เป็นพนักงาน สำนักงานจะมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มตามที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับพนักงาน
  • 3. ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่เก็บรวบรวม
  • 3.1. สำนักงานอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่านเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่สำนักงานแจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อประเมินความสามารถหรือคุณสมบัติของท่าน ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต เช่น คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ประวัติสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม รวมถึงการสอบถามข้อมูลจากบุคคลอ้างอิงที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้กับสำนักงาน
  • 3.2. สำนักงานอาจต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้
    • 3.2.1. ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง โรคประจำตัว ตาบอดสี ผลการตรวจร่างกาย ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการแพ้ยา หมู่เลือด ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษาพยาบาล เพื่อการคุ้มครองแรงงาน การประเมินความสามารถในการทำงาน รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
    • 3.2.2. ข้อมูลชีวภาพ (biometric data) เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า เพื่อใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนของท่าน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ สำนักงานหรือของบุคคลอื่น
    • 3.2.3. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงานและรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสำนักงาน หรือของบุคคลอื่น
    • 3.2.4. ความเชื่อในลัทธิศาสนา ปรัชญา เชื้อชาติ สัญชาติ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรม และสวัสดิการที่เหมาะสมกับพนักงาน รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน
    • 3.2.5. ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล ในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน เพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม และสวัสดิการของพนักงาน
  • 3.3. ในกรณีที่จำเป็น สำนักงานจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ สำนักงานจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ เพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน
  • 3.4. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม ซึ่งจะเก็บจากการหลักฐานที่ท่านนำมาแสดงหรือท่านยินยอมให้ตรวจสอบจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยสำนักงานจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนด
  • 4. การใช้ Cookies
  • สำนักงานมีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กำหนดไว้ตาม นโยบายการใช้ Cookies
  • 5. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล
  • 5.1. ในกรณีที่สำนักงานเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับสำนักงานได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
  • 5.2. หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับสำนักงาน หรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้สำนักงานไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วน หรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้
  • 5.3. ในกรณีที่สำนักงานจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลอื่น ท่านรับรองว่าท่านมีอำนาจกระทำการแทนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการรับทราบนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ และในการให้ความยินยอมแก่สำนักงานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • 6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
  • 6.1. สำนักงานจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน สำนักงานจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
  • 6.2. ระยะเวลาที่สำนักงานเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจแตกต่างกันไปตามกิจกรรมการประมวลผล ซึ่งท่านสามารถดูรายละเอียดได้ในแต่ละหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
  • 6.3. สำนักงานอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาความเหมาะสมของท่านในตำแหน่งนั้น เพื่อใช้ในการพิจารณาและติดต่อกับท่านในกรณีที่มีตำแหน่งงานอื่นที่สำนักงานเห็นว่าอาจเหมาะสมกับท่านในระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการสมัครเข้าเป็นพนักงาน หรือเข้าฝึกงาน และหากท่านไม่ต้องการให้สำนักงานเก็บข้อมูลไว้เพื่อประกอบการพิจารณาตำแหน่งงานอื่น ท่านสามารถติดต่อสำนักงานได้ตามช่องทางที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
  • 6.4. กรณีที่ท่านผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานเป็นพนักงาน หรือเข้าฝึกงาน สำนักงานจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปในระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการจ้างงานพนักงาน หรือการฝึกงานของท่าน
  • 6.5. กรณีที่สำนักงานใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน สำนักงานจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และสำนักงานดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีสำนักงานจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้สำนักงานสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้
  • 6.6. สำนักงานจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
  • 7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
  • 7.1. สำนักงานเปิดเผย และแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับ
    • 7.1.1. บริษัทในกลุ่มตามเอกสารแนบท้าย และ
    • 7.1.2. บุคคล และนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มของสำนักงาน (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลากร การจ้างงาน การรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบประวัติ การทดสอบคุณสมบัติและความสามารถ ระบบสารสนเทศ สถาบันการเงิน คู่ธุรกิจ ผู้พัฒนาระบบสารสนเทศ หน่วยงานของรัฐ และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้สำนักงานสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ท่าน รวมถึงดำเนินการใดๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
  • 7.2. สำนักงานจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

2. สำหรับพนักงานของ สำนักงาน

หัวข้อ รายละเอียด
  • 1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • 1.1. เพื่อดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนตามสัญญาจ้างงาน หรือสัญญาอื่นใดอันเกี่ยวเนื่องกับการว่าจ้าง ระหว่างท่านกับสำนักงาน
    • 1.1.1. เพื่อดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนต่างๆ ตลอดระยะเวลาของการจ้างงาน เช่น การจัดทำทะเบียนพนักงาน การจัดทำข้อมูลพนักงาน การจัดทำบัตรพนักงาน การประเมินการทดลองงาน การปรับปรุงข้อมูลพนักงาน การบริหารจัดการวันหยุดพักผ่อนประจำปี การลางานประเภทต่างๆ การแจ้งตั้งครรภ์ การขอหนังสือรับรอง การลาออก รวมถึงการดำเนินการตามแบบคำร้องขออื่นๆ ของท่าน
    • 1.1.2. เพื่อดำเนินการด้านการบริหารงานบุคคล เช่น การฝึกอบรม การพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถ การมอบหมายงาน การมอบอำนาจ การแต่งตั้ง การโยกย้าย การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งงาน การปรับโครงสร้างองค์กร การประเมินผลการปฏิบัติงาน การปรับระดับตำแหน่งงาน การปรับอัตราเงินเดือน การจ่ายโบนัส รวมถึงการสนับสนุนด้านเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ และการวางแผนสืบทอดตำแหน่งงาน
    • 1.1.3. เพื่อการตรวจสอบและพิสูจน์ตัวตนของท่านเพื่อลงเวลาทำงาน และ/หรือเพื่อเข้าพื้นที่ของสำนักงาน เพื่อปฏิบัติงาน เข้าประชุม อบรมสัมนา หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของสำนักงาน โดยสำนักงาน จะเก็บข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ และ/หรือ ข้อมูลการจดจำใบหน้า (Face Recognition) ของท่าน โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือตามที่กฎหมายอนุญาต
  • 1.2. เพื่อดำเนินการด้านค่าตอบแทน สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์
    • 1.2.1. เพื่อดำเนินการด้านการจ่ายค่าจ้าง หรือผลตอบแทนอื่น เช่น การตรวจสอบเวลาเข้าออกงาน การทำงานล่วงเวลาหรือทำงานในวันหยุด การลาประเภทต่างๆ การขาดงาน หรือละทิ้งหน้าที่ การจัดทำเงินเดือน และกระบวนการจ่ายเงินเดือนและผลตอบแทน
    • 1.2.2. เพื่อดำเนินการจัดให้มีสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับท่าน เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี ประกันสุขภาพพนักงานและครอบครัว กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินช่วยเหลือสวัสดิการต่างๆ เช่น สมรส คลอดบุตร ครอบครัวหรือพนักงานเสียชีวิต
  • 1.3. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
    • 1.3.1. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่างๆ เช่น การจัดทำทะเบียนลูกจ้าง การหักและชำระภาษี การหักประกันสังคม การอายัดและนำส่งเงินเดือน โบนัส ค่าตอบแทนต่างๆ ตามคำสั่งหรือหมายหรือหนังสือแจ้งให้อายัดและนำส่งเงินตามกฎหมาย เช่น การบังคับคดี กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา
    • 1.3.2. เพื่อดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการสวัสดิการ คณะกรรมการความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย และดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
    • 1.3.3. เพื่อดำเนินการพิจารณาเกี่ยวกับการลา หรือข้อมูลด้านการแพทย์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ ความไม่สมบูรณ์หรือทุพพลภาพ เพื่อคุ้มครองแรงงาน รวมถึงการให้ความช่วยเหลือในกรณีท่านได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยในที่ทำงาน
  • 1.4. เพื่อดำเนินการสนับสนุนข้อมูลและกระบวนการต่างๆ ภายในสำนักงาน
    • 1.4.1. เพื่อการรายงาน วิเคราะห์ ทำสถิติ ในด้านการเงินและธุรกิจ เพื่อการบริหารจัดการ การวางแผนงบประมาณ และการบริหารด้านการบัญชี และการวางแผนทางธุรกิจ
    • 1.4.2. เพื่อสนับสนุนข้อมูลในการดำเนินการตามขั้นตอน หรือกระบวนการต่างๆ ภายในสำนักงาน ซึ่งอาจมีการนำส่งข้อมูลของท่าน ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ข้อมูลเท่าที่จำเป็นและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในแต่ละกระบวนการ
    • 1.4.3. เพื่อกำหนดสิทธิการใช้งานระบบต่างๆ และการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล สนับสนุนด้านเครื่องมืออุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับท่าน
    • 1.4.4. เพื่อดำเนินการจัดการทรัพย์สินของสำนักงาน ที่ส่งมอบให้กับพนักงาน เช่น บัตรเข้าอาคาร กุญแจ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์/Notebook รถยนต์
    • 1.4.5. เพื่อดำเนินการเรื่องการเดินทางหรือที่พัก ที่เกี่ยวกับการทำงาน การเบิกเงินช่วยเหลือการเดินทางไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ การเบิกค่าเดินทาง รวมถึงการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำงาน
  • 1.5. เพื่อดำเนินการด้านกิจกรรมต่างๆ สำหรับพนักงาน ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
    • 1.5.1. เพื่อการจัดกิจกรรมหรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกสำนักงาน รวมถึงการประกาศผล หรือประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ซึ่งอาจมีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล ภาพนิ่งหรือภาพเคลือนไหวของท่านจากการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เผยแพร่เพื่อประชาสัมพันธ์ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกิจกรรม
    • 1.5.2. เพื่อการจัดอบรม สัมมนา/ดูงาน รวมถึงการทำกิจกรรมนอกสถานที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับท่าน สำนักงานอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้กับผู้ให้บริการภายนอก เพื่อจัดเตรียม รถโดยสาร อาหาร ที่พัก และสถานที่ต่างๆ ให้กับท่าน
    • 1.5.3. เพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจ ทำแบบสอบถาม หรือสำรวจความคิดเห็นของท่าน และประเมินผลจากการทดสอบหรือสำรวจดังกล่าว
  • 1.6. เพื่อการตรวจสอบ กำกับดูแล และบริหารความเสี่ยง
    • 1.6.1. เพื่อการตรวจสอบการสื่อสารที่เกี่ยวกับการทำงาน สำนักงานจำเป็นและขอสงวนสิทธิในการตรวจตราและตรวจสอบการสื่อสารทางอิเลคทรอนิกส์ ที่ได้ส่งโดยใช้บัญชีเครือข่าย หรืออุปกรณ์ที่สำนักงานได้ให้ไว้กับท่านเพื่อการปฏิบัติงาน เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าทรัพยากรด้านสารสนเทศของสำนักงาน ถูกใช้อย่างถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมายและนโยบายของสำนักงาน
    • 1.6.2. เพื่อการกำกับดูแลการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามกฎและข้อบังคับของสำนักงาน
  • 1.7. เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของสำนักงาน
    • 1.7.1. เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารสำนักงานหรือสถานที่ของสำนักงาน การแลกบัตรเพื่อเข้าพื้นที่อาคารสำนักงาน/สาขา รวมถึงการบันทึกภาพภายในพื้นที่ของสำนักงาน ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้องวงจรปิด (CCTV Privacy Notice)
  • 2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
  • 2.1. ข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาพนักงาน เช่น Resume Curriculum Vitae (CV) จดหมายสมัครงานใบสมัครงาน ความเห็นประกอบการสรรหาพนักงาน
  • 2.2. ข้อมูลในการติดต่อกับพนักงาน เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลโซเชียลมีเดีย
  • 2.3. ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของพนักงาน เช่น วันเดือนปีเกิด อายุ เพศ สถานะการสมรส ความสนใจ ความคิดเห็น
  • 2.4. ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัว หรือผู้อยู่ในความดูแลของพนักงานที่มีสิทธิได้รับสวัสดิการตามข้อบังคับและระเบียบการบริหารงานบุคคลของบริษัท เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส ข้อมูลเกี่ยวกับบุตร ข้อมูลเกี่ยวกับบิดามารดา ผู้รับผลประโยชน์ ทั้งนี้ ก่อนการให้ข้อมูลกับสำนักงาน ให้พนักงานแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย
  • 2.5. รูปถ่ายและภาพเคลื่อนไหว
  • 2.6. ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถ และการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่นๆ ของพนักงาน เช่น ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษา สถาบัน/มหาวิทยาลัย ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ผลการศึกษา ผลการทดสอบ สิทธิในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ความสามารถทางด้านภาษา และความสามารถอื่นๆ ข้อมูลจากการอ้างอิงที่พนักงานได้ให้แก่สำนักงาน
  • 2.7. ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต เช่น ตำแหน่งงาน รายละเอียดของนายจ้าง เงินเดือนและค่าตอบแทน สวัสดิการที่ได้รับ
  • 2.8. ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่สามารถปฏิบัติงานได้
  • 2.9. ข้อมูลเกี่ยวกับภาระทางทหาร
  • 2.10. ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของพนักงาน เช่น นิสัย พฤติกรรม ทัศนคติ ความถนัด ทักษะ ภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความฉลาดทางอารมณ์ ความผูกพันต่อองค์กร ซึ่งอาจได้มาจากการสังเกตและวิเคราะห์ของสำนักงานและพนักงานของสำนักงานในระหว่างการปฏิบัติงานหรือเข้าร่วมกิจกรรมกับสำนักงาน
  • 2.11. ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานหน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น กระทรวงแรงงาน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
  • 2.12. ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลค่าจ้าง เงินเดือน รายได้ ภาษี กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บัญชีธนาคาร การกู้ยืมเงิน รายการยกเว้นหรือหักลดหย่อนทางภาษี
  • 2.13. ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการประกันสังคม การคุ้มครองแรงงาน สิทธิประโยชน์ สวัสดิการ และผลประโยชน์ที่พนักงานได้รับ หรือมีสิทธิที่จะได้รับตามข้อบังคับและระเบียบบริหารงานบุคคลของสำนักงาน
  • 2.14. บันทึกการเข้าออกงาน และระยะเวลาในการปฏิบัติงาน การทำงานล่วงเวลา การขาด และลางาน
  • 2.15. ข้อมูลประวัติการปฏิบัติงาน ตำแหน่งงาน การเข้าประชุม การให้ความเห็น
  • 2.16. ข้อมูลการใช้งาน และการเข้าถึงระบบสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ ระบบงาน เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ระบบโครงข่าย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบอีเมล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • 2.17. ข้อมูลที่รวบรวมจากการมีส่วนร่วมกับสำนักงาน เช่น การเข้าร่วมกิจกรรม การตอบแบบสำรวจ การตอบแบบประเมิน
  • 2.18. ข้อมูลที่พนักงานเลือกจะแบ่งปันและเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน เครื่องมือ แบบสอบถาม แบบประเมิน และเอกสารต่างๆ ของสำนักงาน
  • 2.19. สำเนาเอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของพนักงาน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เอกสารอื่นๆ ที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ
  • 2.20. รายละเอียดของผู้ที่สำนักงานสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
  • 2.21. ข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะ ใบอนุญาตขับขี่ ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ และกรณีที่พนักงานขับขี่ยานพาหนะที่สำนักงานจัดหาให้ สำนักงานจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการขับขี่ยานพาหนะของพนักงานด้วย
  • 2.22. ข้อมูลอื่นที่จำเป็นต่อการตรวจสอบความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เช่น ข้อมูลข้อมูลการถือหุ้นและความสัมพันธ์กับคู่ธุรกิจ
  • 2.23. ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ทั้งในกรณีที่พนักงานประสบอุบัติเหตุในเวลางาน หรืออันเนื่องมาจากการปฏิบัติงาน และอุบัติเหตุอื่น ๆ
  • 2.24. ข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงาน การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ การวิเคราะห์และการบริหารงานของสำนักงาน การดูแลพนักงานหลังพ้นสภาพการเป็นพนักงาน และการปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ
  • 2.25. ข้อมูลที่เกี่ยวกับการร้องเรียน การร้องทุกข์ Whistleblowing การสอบสวน การลงโทษทางวินัย

ทั้งนี้ หากพนักงานปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องใช้เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือสัญญา หรือเพื่อเข้าทำสัญญาแก่สำนักงาน อาจทำให้การปฏิบัติงานตามสัญญาและสิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการ หรือบริการที่สำนักงานจัดไว้ ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์

  • 3. ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่เก็บรวบรวม
  • 3.1. สำนักงานอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของพนักงานเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่สำนักงานแจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
  • 3.2. สำนักงานอาจต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของพนักงาน ในกรณีดังต่อไปนี้
    • 3.2.1. ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง โรคประจำตัว ตาบอดสี ผลการตรวจร่างกาย ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการแพ้ยา หมู่เลือด ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการจ่ายยา ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล เพื่อการคุ้มครองแรงงานและการจัดให้มีสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลสำหรับพนักงาน การประเมินความสามารถในการทำงานของพนักงาน รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของพนักงานเพื่อการบริหารจัดการที่เหมาะสมอื่นๆ
    • 3.2.2. ข้อมูลชีวภาพ (biometric data) เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า เพื่อใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนของพนักงาน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสำนักงาน หรือของบุคคลอื่น
    • 3.2.3. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงานและรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสำนักงาน หรือของบุคคลอื่น
    • 3.2.4. ความเชื่อในลัทธิศาสนา ปรัชญา เชื้อชาติ สัญชาติ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรม และสวัสดิการที่เหมาะสมกับพนักงาน รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน
    • 3.2.5. ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล ในกรณีที่พนักงานไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของพนักงาน เพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม และสวัสดิการของพนักงาน
  • 3.3. ในกรณีที่จำเป็น สำนักงานจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของพนักงาน โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากพนักงาน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ สำนักงานจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของพนักงาน
  • 3.4. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม ซึ่งจะเก็บจากการหลักฐานที่พนักงานนำมาแสดงหรือพนักงานยินยอมให้ตรวจสอบจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยสำนักงานจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนด
  • 4. การใช้ Cookies
  • สำนักงานมีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กำหนดไว้ตาม นโยบายการใช้ Cookies
  • 5. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล
  • 5.1. ในกรณีที่สำนักงานเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของพนักงาน พนักงานมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของพนักงานที่ให้ไว้กับสำนักงานได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่พนักงานได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
  • 5.2. หากพนักงานถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับสำนักงาน หรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้สำนักงานไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้
  • 6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
  • 6.1. สำนักงานจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน สำนักงานจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
  • 6.2. สำนักงานเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานไว้ตลอดระยะเวลาที่เป็นพนักงานของสำนักงาน เพื่อปฏิบัติตามสัญญา และตามระยะเวลาที่จำเป็นหลังจากสิ้นสุดการเป็นพนักงานของสำนักงานแล้ว
  • 6.3. สำนักงานเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกครอบครัว หรือผู้อยู่ในความดูแลของพนักงานของสำนักงานไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นต่อการประมวลผล เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อตอบสนองต่อสิทธิของพนักงานในการได้รับสวัสดิการตามข้อบังคับและระเบียบการบริหารงานบุคคลของสำนักงาน
  • 6.4. กรณีที่สำนักงานใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานโดยขอความยินยอมจากพนักงาน สำนักงานจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าพนักงานจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและสำนักงานดำเนินการตามคำขอของพนักงานเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีสำนักงานจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่า พนักงานเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้สำนักงานสามารถตอบสนองต่อคำขอของพนักงานในอนาคตได้
  • 6.5. สำนักงานจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
  • 7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
  • 7.1. สำนักงานเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับ
    • 7.1.1. บริษัทในกลุ่ม เค ดับบลิว ตามเอกสารแนบท้าย และ
    • 7.1.2. บุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มของสำนักงาน (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลากร การจ้างงาน การรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบประวัติ การทดสอบคุณสมบัติและความสามารถ ระบบสารสนเทศ สถาบันการเงิน คู่ธุรกิจ ผู้พัฒนาระบบสารสนเทศ หน่วยงานของรัฐ และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้สำนักงานสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่พนักงาน รวมถึงดำเนินการใดๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
  • 7.2. สำนักงานจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของพนักงานอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

3. สำหรับลูกค้า คู่ค้าและผู้เกี่ยวข้อง

หัวข้อ รายละเอียด
  • 1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • 1.1. เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับสำนักงาน เช่น เพื่อการขาย/ซื้อ สินค้า และ/หรือ บริการให้แก่ท่าน หรือปฏิบัติตามสัญญาใดๆ ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา ซึ่งรวมถึง การจัดการบัญชีผู้ใช้ (Account) ของท่าน การจัดส่งสินค้า การดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีและการเงิน การบริการหลังการขาย และการคืนสินค้า และดำเนินการใดๆ เพื่อให้ท่านได้รับสินค้าและ/หรือ บริการ หรือตามที่ท่านได้ร้องขอ
  • 1.2. เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสำนักงานหรือของบุคคลอื่น
    • 1.2.1. เพื่อให้สำนักงานสามารถจัดการ พัฒนา และดำเนินการใดๆ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการและพัฒนาสินค้า และ/หรือบริการ (รวมถึงเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน) การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่นๆ การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าและผู้ที่อาจเป็นลูกค้า การบำรุงรักษา และการใช้ระบบไอที
    • 1.2.2. เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย เช่น จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย เช่น การเข้าสถานที่ของสำนักงาน การเข้าสู่ระบบ (Log in) เข้าเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน
    • 1.2.3. เพื่อดำเนินการทางการตลาด และวิเคราะห์ข้อมูล (Marketing and Data Analysis) เช่น การแจ้งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ ผ่านทาง อีเมล เอสเอ็มเอส แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ จดหมายทางตรง รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการวิจัยทางการตลาด เช่น ทำแบบสอบถาม เข้าสัมภาษณ์
  • 1.3. กรณีที่ท่านให้ความยินยอม สำนักงานจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
    • 1.3.1. เพื่อให้สำนักงาน บริษัทในกลุ่มของสำนักงาน และพันธมิตร ส่งข่าวสารและสิทธิประโยชน์ผ่านทางอีเมล เอสเอ็มเอส แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ และจดหมายทางตรง ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการหลังการขายที่สำนักงานวิเคราะห์ให้เหมาะกับความต้องการของท่าน (Personalized Offers)
    • 1.3.2. เพื่อให้สำนักงานดำเนินการจัดกิจกรรมนอกจากที่กล่าวมาข้างต้น โดยอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติม โดยจะแจ้งให้ทราบและขอความยินยอมจากท่านใหม่เป็นคราวๆ ไป

ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความยินยอมได้ในข้อ 4

  • 2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
  • 2.1. เมื่อท่านจะซื้อ หรือซื้อสินค้า และ/หรือ บริการ รวมทั้งการเข้าเป็นสมาชิกเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สำนักงานจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
    • 2.1.1. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปี สถานที่เกิด สถานภาพ ที่อยู่ ข้อมูลตามที่ระบุในบัตรประจำตัวประชาชนและหนังสือเดินทาง Line ID สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง ประวัติการสนทนาในแอปพลิเคชันต่างๆ เป็นต้น
    • 2.1.2. ข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ ช่องทางติดต่อในสื่อสังคมออนไลน์ สถานที่ทำงาน เป็นต้น
    • 2.1.3. ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง ประสบการณ์การทำงาน เป็นต้น
    • 2.1.4. ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้า และ/หรือบริการ เช่น ประวัติการซื้อสินค้า ประวัติการเคลมสินค้า ข้อร้องเรียน
    • 2.1.5. ข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้แก่เมื่อท่านติดต่อสำนักงาน หรือสำนักงานดูแลให้บริการหลังการขาย การทำวิจัย และการสัมภาษณ์
  • 2.2. เมื่อท่านเข้าชม และ/หรือซื้อสินค้าออนไลน์ หรือเข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน สำนักงานจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
    • 2.2.1. ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครสมาชิก (Registration) เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์มือถือ รหัสผ่าน
    • 2.2.2. ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านใช้ เช่น IP Address และข้อมูลที่อยู่ (Location Data) หรือ Other device identifier
    • 2.2.3. ชนิดและเวอร์ชันของเบราเซอร์ที่ท่านใช้ รวมถึงชนิดและเวอร์ชันของ plug-in ของเบราเซอร์
    • 2.2.4. การตั้งค่าเขตเวลา (Time zone)
  • 2.3. เมื่อท่านติดต่อสำนักงาน หรือร่วมกิจกรรมใดๆ กับสำนักงาน เช่น ติดต่อ Contact Center การทำ Customer Satisfaction กิจกรรมสิทธิประโยชน์ต่างๆ สำนักงานจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น
    • 2.3.1. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีที่เกิด รูปถ่าย หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลการแพ้อาหาร เป็นต้น
    • 2.3.2. ข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่
    • 2.3.3. ข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรม เช่น ประวัติการร่วมกิจกรรมในครั้งก่อนๆ ภาพถ่ายในแต่ละกิจกรรม
  • 2.4. สำนักงานอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่สำนักงานแจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น
    • 2.4.1. ในบางกรณี สำนักงานอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน แม้ว่าสินค้าหรือบริการนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลชนิดพิเศษโดยตรง เช่น สำนักงานจำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนของท่าน ซึ่งมีข้อมูลศาสนา เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่าน หรือดำเนินการทางภาษี
    • 2.4.2. ข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูลการแพ้อาหาร เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ
  • 2.5. ในกรณีที่จำเป็น สำนักงานจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่านโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ สำนักงานจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ เพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน
  • 3. การใช้ Cookies
  • สำนักงานมีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กำหนดไว้ตาม นโยบายการใช้ Cookies
  • 4. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล
  • 4.1. ในกรณีที่สำนักงานเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของพนักงาน พนักงานมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของพนักงานที่ให้ไว้กับสำนักงานได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่พนักงานได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
  • 4.2. หากพนักงานถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับสำนักงานหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้สำนักงานไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วน หรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้
  • 4.3. หากท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ก่อนการให้ความยินยอมโปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้สำนักงานทราบ เพื่อให้สำนักงานสามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย
  • 5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
  • 5.1. สำนักงานจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน สำนักงานจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
  • 5.2. สำนักงานจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
  • 5.3. กรณีที่สำนักงานใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน สำนักงานจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และสำนักงานดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดี สำนักงานจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น สำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้สำนักงานสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้
  • 6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
  • 6.1. สำนักงานเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับ
    • 6.1.1. บริษัทในกลุ่มตามเอกสารแนบท้าย และ
    • 6.1.2. บุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มของสำนักงาน (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น ผู้ให้บริการด้านการขนส่ง (เช่น ไปรษณีย์) ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการและทำหน้าที่ภายใต้การควบคุมของสำนักงาน เช่น ช่วยในการประมวลผลการทำรายการ ส่งโฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของสำนักงาน หรือให้ความช่วยเหลือและบริการแก่ท่าน บริษัทผู้ให้บริการการเดินทางทั้งทางบก อากาศ และน้ำ บริษัทผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมและการเงิน (เช่น ธนาคาร บริษัทรับชำระเงินแทน) ผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยี (เช่น ระบบคลาวด์ ระบบบล็อคเชน บริการส่ง SMS บริการ data analytics) ผู้ให้บริการจัดทำโปรแกรมและระบบไอทีต่างๆ บริษัทประกันผู้ตรวจสอบ หน่วยงานทางด้านกฎหมาย ที่ปรึกษา หน่วยงานของรัฐ (เช่น กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) หรือบุคคลภายนอกอื่นๆ (ในประเทศไทยหรือที่อื่นใด) ที่มีความเกี่ยวข้องกับหมายเรียก คำสั่งศาล หรือกระบวนการหรือข้อกำหนดทางกฎหมายอื่นๆ ภายใต้กฎหมายหรือกฎข้อบังคับของประเทศไทย หรือกฎหมายและกฎข้อบังคับของเขตอำนาจศาลอื่นที่ใช้บังคับกับสำนักงาน หรือบริษัทในเครือของสำนักงาน และสถาบันการเงินอื่นๆ เพื่อจัดการความเสี่ยง เพื่อช่วยตรวจจับและป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมายและการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้นรวมถึงการละเมิดอื่นๆ ต่อนโยบายและข้อตกลงของสำนักงาน รวมถึงบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้สำนักงานสามารถดำเนินธุรกิจ และให้บริการแก่ท่าน รวมถึงดำเนินการใดๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
  • 6.2. สำนักงานจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของพนักงานอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

รายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามตารางกิจกรรม/บริการข้างต้นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงาน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดนโยบาย ประกาศ และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานทั้งหมดได้บนเว็บไซต์ www.kw.co.th

4. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของท่าน

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • 4.1 สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนา และขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สำนักงานเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่สำนักงานมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  • 4.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • 4.3 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
    • 4.3.1 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่สำนักงานทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
    • 4.3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
    • 4.3.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์สำนักงานได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้สำนักงานเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
    • 4.3.4 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่สำนักงานกำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • 4.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่สำนักงานมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น สำนักงานสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของสำนักงาน)

5. กรณีที่สำนักงานเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

สำนักงานจะไม่เผยแพร่ จำหน่าย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของท่านที่สำนักงานได้เก็บรวบรวมไว้ให้แก่บุคคลภายนอก เว้นแต่เป็นการดำเนินการตามที่กำหนดในประกาศนี้ หรือเมื่อได้รับการร้องขอหรือได้รับความยินยอมจากท่าน หรือภายใต้บางสถานการณ์ ดังนี้

  • 5.1. กรณีที่สำนักงานเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นข้อบังคับทางกฎหมาย หรือเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการดำเนินการตามหมายศาล คำสั่งศาล หรือกระบวนการยุติธรรม
  • 5.2. เป็นการแบ่งปันข้อมูลกับหน่วยงานอื่นที่เชื่อถือได้ ซึ่งทำงานในนามหรือทำงานให้สำนักงานภายใต้ข้อตกลง หรือสัญญาที่ให้มั่นใจว่าหน่วยงานดังกล่าวจะมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเช่นเดียวกับสำนักงาน โดยการแบ่งปันข้อมูลดังกล่าวอาจมีทั้งกรณีการจัดเก็บข้อมูล และการใช้ข้อมูลเพื่อส่งมอบบริการแก่ท่าน หรือเพื่อการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมของสำนักงาน เช่น การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูล การประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
  • 5.3. กรณีที่สำนักงานเชื่อโดยสุจริต และมีเหตุผลที่ดีที่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่สำนักงานเห็นว่าสำคัญยิ่งกว่าการปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่าน และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ได้แก่
    • 5.3.1. เพื่อการสืบสวน สอบสวน และระงับเหตุอาชญากรรม การทุจริต การฉ้อโกง หรือ
    • 5.3.2. เพื่อป้องกัน หรือรับมือกับภัยคุกคามตลอดจนการกระทำที่อาจสร้างความเสียหายต่อสิทธิ ทรัพย์สิน หรือความปลอดภัยของสาธารณะ รวมถึงของสำนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือ
    • 5.3.3. เพื่อป้องกัน หรือรับมือการกระทำที่ละเมิดต่อข้อตกลงการใช้บริการของสำนักงาน หรือต่อกฎหมาย

ในกรณีที่สำนักงานมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยทางกายภาพของท่าน หรือเห็นว่าสำนักงานต้องดำเนินการบางอย่าง เพื่อปกป้องท่านจากภัยคุกคามหรือการกระทำใดๆ ที่อาจทำให้ท่านเสียหายสำนักงานจะหารือกับท่าน และถ้าเป็นไปได้สำนักงานจะขออนุญาตท่านในการแจ้งสถานการณ์ที่ท่านประสบอยู่กับบุคคลอื่นที่จำเป็นต้องทราบ ก่อนการดำเนินการนั้น

หากมีกรณีดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น สำนักงานจะมีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่า ข้อมูลใดที่สำนักงานมีการเปิดเผยภายใต้เหตุผลและสถานการณ์ใด เพื่อท่านสามารถทราบได้ว่า สำนักงานได้มีการดำเนินการอะไรไปเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

สำนักงานมีการจัดเก็บ ใช้ และประมวลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนระบบที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การโอนข้อมูลดังกล่าว เพื่อจัดเก็บหรือประมวลผลในบางกรณี อาจเป็นการดำเนินการข้ามพื้นที่หรือข้ามประเทศ ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลที่จำเป็นให้คู่สัญญาทางธุรกิจ โดยสำนักงานจะมีการตรวจสอบเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าการโอนข้อมูลเป็นไปอย่างปลอดภัย และผู้รับโอนข้อมูลมีมาตรการป้องกันและคุ้มครองข้อมูลที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งมีการจัดทำสัญญากับบุคคลที่สามที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการโอนข้อมูล จัดเก็บหรือประมวลผล เพื่อให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่สำนักงานกำหนด เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้

  • 6.1.1. เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้สำนักงาน จำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
  • 6.1.2. สำนักงานได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่าน ในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้เป็นไปตามรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
  • 6.1.3. เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน หรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้ หรือเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักงานมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของสำนักงาน

นอกจากนี้ สำนักงานได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้น โดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยสำนักงานได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม

8. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักงานอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก็ต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สืบสิทธิ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยส่งคำร้องขอผ่าน Call Center: 02-584-6334 หรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ info@kw.co.th

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายมีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใดๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย

ทั้งนี้ สำนักงานอาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ตามกรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้

9. ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักงานได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้น ที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยสำนักงานจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด

10. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ สำนักงานอาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทาง www.kw.co.th โดยมีวันที่ของเวอร์ชันล่าสุดกำกับอยู่ตอนท้าย อย่างไรก็ดี สำนักงานขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจ้ะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่สำนักงาน

โดยในการเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว

11. การติดต่อสอบถาม

ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่

  • 11.1. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
    • ชื่อ: บริษัท เค ดับบลิว โกลบอล เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด
    • สถานที่ติดต่อ: 138/6 หมู่ 10 ซอยพหลโยธิน 66 ถนนพหลโยธิน ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทึมธานี 12130
    • ช่องทางการติดต่อ: info@kw.co.th Call Center: 02-584-6334
  • 11.2. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
    • ชื่อ: สุนทรี ยี่ร้า
    • สถานที่ติดต่อ: 138/6 หมู่ 10 ซอยพหลโยธิน 66 ถนนพหลโยธิน ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทึมธานี 12130
    • ช่องทางการติดต่อ: hr@kw.co.th

138/6 Moo 10 Khukot, Lam Luk Ka, Pathum Thani, 12130 THAILAND

Tel : +662-584-6334-5 Fax. : +662-584-6799, +662-584-6997
Mail : info@kw.co.th